Braces
มีลักษณะเป็นวงแหวนใช้สำหรับครอบยึดติดกับตัวฟัน ทำจากแผ่นโลหะเหล็กกล้าไร้สนิม โดยส่วนใหญ่จะทำการใส่แหวนจัดฟันที่ฟันกราม เนื่องจากเป็นฟันที่ต้องรบแรงมาก ๆ
ใช้ในการเตรียมฟันเพื่อใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น โดยยางจะค่อย ๆ ดันฟันหลังซึ่งปกติจะอยู่ชิดกันแน่นให้หลวมขึ้น เพื่อเป็นที่อยู่ของแหวนจัดฟันหรือแบนด์ (Band)
เมื่อเริ่มใส่ยางแยกฟัน จะรู้สึกแน่น ๆ เหมือนมีเศษอาหารติด เวลากัดฟันอาจรู้สึกว่ากัดโดนยางเพราะส่วนหนึ่งของยางแยกฟันอยู่บนด้านสบฟัน ถ้ามีอาการปวดหรือแน่นมาก สามารถ ทานยาแก้ปวดได้ อาการปวดจะบรรเทาลง ใน 2-3 วัน ควรเลี่ยงอาหารเหนียวที่จะติดและดึงยางแยกฟันออก และเลี่ยงการใช้ไหมขัดฟันบริเวณนี้ชั่วคราวเพราะยางจะหลุดได้ หากยางแยกฟันหลุดเกินกว่า 3 วันก่อนวันนัดติดแบนด์ ควรติดต่อทันตแพทย์เพื่อใส่ยางให้ใหม่
เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับฟันแต่ละซี่ โดยจะมีร่องตรงกลางสำหรับใส่ลวด แบรกเกตที่ใช้ในคลินิกเป็นชนิดที่มีการปรับมุมของร่องและฐานแบรกเกตแล้ว ซึ่งจะสามารถควบคุมการเคลื่อนของฟันได้ทุกทิศทาง ช่วยลดระยะเวลาในคลินิก และช่วยให้การสบฟันและตำแหน่งของฟันเป็นไปตามความต้องการหลังการจัดฟัน
ลวดที่นิยมใช้ในการจัดฟัน มี 2 แบบ คือ
1. ลวดสแตนเลส มีความแข็งแรง ไม่เป็นสนิม ไม่บิดงอได้ง่าย สามารถดัดขึ้นรูปได้และมีความฝืดต่ำในการเคลื่อนผ่านช่องของเครื่องมือ (Bracket)
2. ลวดโลหะผสม เช่น ลวดนิเกิ้ลไทเทเนียม (Nickle-Titanium, NiTi) มีความนิ่ม โค้งงอได้และกลับคืนรูปได้เหมือนเดิม จึงนิยมใช้ในช่วงแรกๆ ของการจัดฟัน ที่ฟันยังเกอยู่มาก
การเลื่อนฟันบางตำแหน่งในการจัดฟัน ต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ โดยการใส่หนังยางดึงฟัน (Elastic) ตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำอย่างเคร่งครัดจะทำให้ฟันเลื่อนเข้าที่ได้รวดเร็ว ทันตแพทย์จัดฟันจะแนะนำวิธีใส่หนังยาง ทิศทางและตำแหน่งของหนังยาง รวมทั้งระยะเวลาในการใส่ เช่น ใส่ตลอดเวลา หรือ ใส่เฉพาะบางเวลา คนไข้ควรเปลี่ยนหนังยางทุก 12 - 24 ชั่วโมงหลังใส่ เพราะยางจะล้า หมดแรงดึง ควรใส่หนังยางคืนทันทีหลังทานอาหารและหลังทำความสะอาดฟัน การใส่หนังยางไม่สม่ำเสมอ ฟันจะเลื่อนไปแล้วเลื่อนกลับ ถ้าตะขอที่เกี่ยวหนังยางบิด หรือหัก ให้รีบติดต่อทันตแพทย์ทันที ฟันที่เกี่ยวหนังยางอาจมีอาการเจ็บ ๆ หรือ โยกเล็กน้อย หลังใส่หนังยางเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีอาการมากผิดปกติ ให้ติดต่อทันตแพทย์จัดฟันทันที
เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์
เพื่อช่วยยึดฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการหลังจัดฟันเสร็จ เนื่องจากเหงือกและเนื้อเยื่อปริทันต์บริเวณที่ฟันเคลื่อนไปนั้นต้องการเวลาสำหรับการปรับตัวในตำแหน่งใหม่
หลังจากจัดฟันเสร็จ ฟันอาจอยู่ในตำแหน่งที่ยังไม่คงที่ ดังนั้นแรงจากกล้ามเนื้อรอบๆช่องปากอาจมีผลให้ฟันเคลื่อนกลับ
ในผู้ป่วยที่ยังมีการเจริญเติบโตอยู่ อาจมีผลต่อความไม่คงสภาพหลังจากจัดฟัน
ขึ้นอยู่กับสภาพความผิดปกติของฟันก่อนจัดฟัน โดยส่วนใหญ่คนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา ยกเว้น เวลารับประทานอาหารและแปรงฟัน เป็นเวลา 3-4 เดือน จากนั้นให้ใส่เฉพาะเวลากลางคืนหรือเวลานอนอีกประมาณ 12 เดือน ทั้งนี้แพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ประเมินสภาพฟันและอธิบายให้ทราบหลังจัดฟันเสร็จ
1. แบบถอดได้
คนไข้สามารถถอดเครื่องมือออกมาทำความสะอาด และถอดออกได้เป็นบางโอกาส แต่มีข้อควรระวังคือเครื่องมือมีโอกาสแตกหักเนื่องจากทำจากพลาสติกและลวด และมีโอกาสสูญหายได้บ่อย รีเทนเนอร์แบบถอดได้มี 2 แบบ คือ แบบพลาสติกมีลวด และแบบพลาสติใส
2. แบบติดแน่น
เหมาะกับคนไข้ที่ไม่มีเวลา ไม่ต้องการให้เห็นสวดขณะใส่ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ โดยรีเทนเนอร์แบบติดแน่นนี้จะมีลักษณะเป็นลวดยึดติดที่ด้านในของฟัน นิยมทำในฟันหน้าล่าง เนื่องจากเป็นบริเวณที่ฟันมีโอกาสคืนกลับสภาพเดิมสูง ข้อเสียคือ ทำความสะอาดยาก และคนไข้ต้องระมัดระวังในการเคี้ยวอาหารเนื่องจากเครื่องมีอากสหลุด หรือแตกหักได้
หมุดจัดฟันไทเทเนียม (Mini-Implant) เป็นเครื่องมือเสริมในการจัดฟัน ลักษณะเป็นหมุดไทเทเนียมขนาดเล็กฝังผ่านเหงือกไปที่กระดูกที่ไม่มีฟันอยู่ เพื่อเป็นหลักยึดในการดึงฟันไปในทิศทางต่างๆที่ต้องการ ในกรณีที่ไม่สามารถใช้ฟันในช่องปากเป็นหลักยึดได้ ซึ่งหมุดจัดฟันนี้ใช้เฉพาะในการจัดฟันเท่านั้น หลังจากที่ฟันเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่ต้องการแล้วก็จะเอาหมุดออก ขั้นตอนการปักหมุดไม่เจ็บและไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใส่ยาชาเฉพาะตำแหน่งเท่านั้น
ลวดยึดระหว่างฟันกราม เป็นลวดยึดระหว่างฟันกรามผ่านกลางเพดาน หรือลวดยึดระหว่างฟันกรามล่าง เพื่อเพิ่มหลักยึดในการเคลื่อนฟันระหว่างจัดฟัน
ลิปบัมเปอร์ (Lip Bumper ) เป็นเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ นิยมใช้ในเด็ก วัตถุประสงค์เพื่อขยายส่วนโค้งแนวฟันด้านหน้าของฟันล่าง และช่วยเคลื่อนฟันกรามไปด้านหลัง
เฮดเกียร์ เป็นเครื่องมือจัดฟันนอกช่องปาก ใส่เฉพาะตอนกลางคืน ปัจจุบันนิยมใช้เฉพาะในเด็กเพื่อยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกรบน
เครื่องมือขยายกระดูกขากรรไกร ( Palatal expander) เป็นเครื่องจัดฟันชนิดติดแน่น โดยมีสกรูวางอยู่ตรงกลางเพดานปาก ผู้ป่วยจะต้องทำการไขสกรูด้วยตนเองวันละ 1-2 ครั้ง ตามที่แพทย์กำหนด จนกว่าจะขยายขนาดขากรรไกรได้ตามที่ต้องการ โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาขยายประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่ต้องใส่เครื่องมือเพื่อคงสภาพขากรรไกรไว้อย่างน้อย 3-6 เดือน ซึ่งในระหว่างนี้สามารถเริ่มทำการติดเหล็กจัดฟันได้