Cosmetic Dentistry
การสร้างรอยยิ้มที่สวยงาม (Smile makeover) เป็นที่นิยมและยอมรับในปัจจุบัน โดยการผสมผสานและประยุกต์ใช้ทันตกรรมเพื่อความสวยงามประเภทต่างๆในการสร้างสรรให้ฟันของผู้เข้ารับบริการมีความสวยงามได้ตามต้องการ ทั้งขนาด รูปร่าง การเรียงตัว และสีของฟัน โดยนิยมเรียกกันว่า ฮอลีวูด สไมล์ ซึ่งจะหมายถึง การบูรณะฟันให้มีความสวยงามเหมือนกับฟันของดาราฮอลีวูด
ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องการฟอกสีฟัน เราต้องรู้ถึงสาเหตุของสีฟันที่เข้มก่อนว่าเกิดจากสาเหตุใด
มีปัจจัยต่างๆ เช่น อายุที่มากขึ้น คราบอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ คราบบุหรี่ หรืออาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด ที่เปลี่ยนสีฟันของเราที่เคยขาว เงางามให้มีสีที่หม่นหมอง มีคราบสีน้ำตาล และทำให้ฟันเหลือง ดังนั้นการฟอกสีฟันจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสีฟันให้มีความขาวและเงางามมากขึ้น
1. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกิดขึ้นภายในตัวฟัน เกิดจากการดื่มน้ำหรือรับประทานสารที่มีฟลูออไรด์มากเกินไป ทำให้เกิดเป็นลักษณะฟันตกกระ (Fluorosis) หรือการรับประทานยาปฏิชีวนะพวกเตตร้าไซคลิน (Tetracycline) ที่ได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา รวมทั้งเกิดจากวัสดุอุดฟันที่มีส่วนผสมของโลหะ ฟันที่ตายเนื่องจากถูกกระทบกระแทก ฟันตายหมายถึงฟันที่ไม่มีเส้นเลือดเส้นประสาทมาหล่อเลี้ยงทำให้สีฟันไม่ขาวใสเหมือนฟันธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดกับฟันที่ผุมากๆแล้วทิ้งไว้นานๆไม่ได้รักษา หรือฟันที่เคยรักษาคลองรากฟันมาแล้ว สาเหตุดังกล่าวอาจทำให้ฟันเป็นสีเทาดำหรือน้ำตาลเข้มมากๆ ด้วยสาเหตุนี้การฟอกสีฟันจะไม่ค่อยได้ผล แต่ถ้าต้องการฟันขาว ก็สามารถทำได้โดยการทำ Veneer หรือ Facing
2. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกิดขึ้นภายนอกตัวฟัน ได้แก่ การที่มีคราบหินปูนหรือหินน้ำลาย คราบชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง หรือแกงเผ็ดต่างๆ การสูบบุหรี่ รวมไปถึงการแปรงฟันที่ผิดวิธี ทำให้มีแผ่นคราบจุลินทรีย์และหินปูนไปเกาะที่ผิวนอกของตัวฟันทีละน้อยจนทำให้ฟันมีสีเหลืองเข้มขึ้น สาเหตุจำพวกนี้แก้ไขได้ไม่ยาก แค่มาขัดฟัน ขูดหินปูน หรือทำ Air Flow หลีกเลี่ยงชา กาแฟ บุหรี่ แปรงฟันให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยได้
3. การเปลี่ยนสีของฟันที่เกี่ยวข้องกับอายุ ส่วนของเคลือบฟันจะบางลงเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นทำให้เห็นเนื้อฟันซึ่งอยู่ชั้นในและมีสีค่อนข้างเหลืองชัดเจนขึ้น เป็นกรณีที่ฟันเหลืองตามธรรมชาติแต่เข้มมากกว่าปกติ จะทำการฟอกสีฟันได้ด้วยเจลฟอกสีฟัน โดยทันตแพทย์จะต้องตรวจดูสภาพของเหงือกและฟัน รอยร้าวต่างๆบนตัวฟันและสภาพการรั่วของวัสดุอุดฟัน รวมทั้งจะต้องขูดหินปูนเพื่อทำความสะอาดฟันและลดการอักเสบของเหงือกก่อน
1. In-office bleaching (การฟอกสีฟันในคลินิก)
รอยยิ้มเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถดึงดูดสายตาแก่ผู้พบเห็น รอยยิ้มที่สวยและขาวกระจ่าง สามารถเพิ่มความรู้สึกมั่นใจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของ และสร่างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น เมื่อเวลาผ่านไปและอายุที่มากขึ้น คราบสีจากอาหารต่างๆ เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลม หรือ บุหรี่ อาจทำให้สีของฟันที่เคยขาวดูคล้ำเข้มขึ้น การฟอกสีฟันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำให้ฟันของท่านกลับมาขาวได้อีกครั้ง แต่ทว่ามีวิธีฟอกสีฟันมากมายต่างๆ นานาๆ หากเลือกวิธีที่ไม่ได้มาตรฐาน ผลลัพธ์อาจเป็นที่ไม่น่าพอใจ ซูม!แอดวานซ์พาวเวอร์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเพราะ...
รวดเร็วและสะดวกสบายการฟอกสีฟันระบบซูม! แอดวานซ์พาวเวอร์ เป็นระบบฟอกสีฟันที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์แล้วว่ามีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง เห็นผลเร็ว และขาวนาน เมื่อเทียบกับวิธีการฟอกสีฟันแบบอื่น จึงเหมะมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา
การฟอกสีฟันระบบซูม! แอดวานซ์พาวเวอร์สามารถทำให้ฟันของท่านขาวขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ภายใน 1 ชั่วโมงและหากสามารถดูแลได้อย่างถูกต้องผลลัพธ์ก็อาจยาวนานหลายปี
* ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
เทคโนโลยีล่าสุดของการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ที่คลินิกของเรานั้น เราเลือกเทคโนโลยีจากบริษัท Biolase
เครื่องเลเซอร์ สไมล์นั้นใช้เจลสูตรเฉพาะซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงกับลักษณะคลื่นเลเซอร์ของเครื่อง LaserSmile โดยเฉพาะ ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ขบวนการฟอกสีฟัน
ขั้นตอนของการฟอกสีฟันโดยใช้เครื่องเลเซอร์ สไมล์ ในการรักษานั้นจะไม่ซับซ้อนและสามารถหลีกเลี่ยงความร้อนที่อาจเกิดขึ้นมากเกินไปได้ดีพอๆกับอาการเสียวฟันของผู้เข้ารับการรักษา ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกสบาย ปลอดภัยและมีความมั่นใจ
การฟอกสีฟันโดยการใช้เแสงเย็น (Cold Light) เป็นเทคโนโลยีระบบการใช้แสงเย็นและอุณหภูมิที่ต่ำ และใช้สูตรการฟอกสีฟันที่ได้รับพัฒนาปรับปรุงพิเศษ ทำให้กระบวนการของการฟอกสีฟันเป็นผลและได้ประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว โดยใช้ระยะเวลาการฟอกสีฟันประมาณ 30-60 นาที ไม่ทำลายเคลือบฟัน และไม่ทำให้ฟันเกิดการเสียหาย ข้อดีคือสามารถฟอกสีฟันได้ในระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยไม่ต้องนำกลับไปทำทีบ้าน ผลข้างเคียง
เฉพาะบางรายอาจทำให้เหงือกมีอาการเจ็บแสบ แดง หรืออักเสบ รวมทั้งอาจทำให้มีอาการเสียวฟัน มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิด ความเข้มข้นของสารที่ใช้ รวมทั้งระยะเวลาที่ใช้ฟอกสีฟัน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นช่วงสั้นๆในขณะที่ทำการฟอกสีฟันซึ่งจะค่อยๆหายไปเมื่อหยุดฟอกสีฟัน
- ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง การแปรงฟันหลังรับประทานอาหารเป็นการเริ่มวินัยที่ดีในการดูแลสุขภาพปากและฟันซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
- หากมีอาการเสียวฟันหลังทำ ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีฤทธิ์ในการป้องกันการเสียวฟัน
- ควรทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 - 2 ครั้ง
- ควรทำการบ้วนปากด้วยน้ำยาผสมฟลูออไรด์ก่อนนอนทุกวัน โดยทำกลั้วน้ำยาและอมไว้ในปากอย่างน้อย 1 นาที และไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารภายใน 30 นาทีหลังการบ้วนปาก
- ควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน
การฟอกสีฟันโดยการนำน้ำยาฟอกสีฟันกลับไปฟอกสีฟันเองที่บ้าน ภายใต้การควบคุมดูแลของทันตแพทย์ เป็นระยะๆ คนไข้จำเป็นต้องพิมพ์ปาก ทำถาดพลาสติกสำหรับใสสารฟอกสีฟันให้คนไข้เฉพาะราย โดยถาดฟอกสีฟันจะต้องแนบพอดีกับตัวฟันและเหงือก และมีที่ว่างสำหรับใส่เจลฟอกสีฟัน โดยต้องใส่ทิ้งไว้ตลอดคืน นาน 10-15 วัน โดยทั่วไปในระหว่างการฟอกสีฟัน ทันตแพทย์จะนัดกลับมาประเมิณผลสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาปรับความเข้มข้นของสาร และระยะเวลาในการทำแต่ละครั้งให้เหมาะสมต่อไป